กก.รังนกฯพัทลุง มีมติให้ บ.สยามเนสท์ ชนะประมูลสัมปทานเป็นทางการแล้ว
หมวดหมู่ : เศรษฐกิจ, พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 18 ส.ค. 2564, 23:27 น. อ่าน : 1,409 พัทลุง - คณะกรรมการรังนกอีแอ่นพัทลุง
มีมติให้ บริษัท สยามเนสท์ 2022 จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลรังนกฯ แล้ว
แต่มิให้ทางบริษัทฯ มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังรังนกฯ ตามคำร้องขอของบริษัทฯ
กรณีที่ บริษัท
สยามเนสท์ 2022 จำกัด ได้เป็นผู้ชนะในการยื่นซองเอกสารการประมูลรังนกฯ ในเบื้องต้น
ในวงเงิน 400 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้มีหนังสือถึง นายกู้เกียรติ
วงศ์กระพันธุ์
ผวจ.พัทลุงในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง
ขอวางหลักประกันซองเพิ่มเติมจาก 10 ล้านบาท เป็น 20 ล้านบาท
เพื่อเป็นหลักประกันยืนยันเจตนาและความบริสุทธิ์ใจ
ที่จะกระทำเพื่อผลประโยชน์ของชาวพัทลุง
รวมทั้งขอเข้าร่วมในการป้องปรามการขโมยรังนกฯ ด้วย พร้อมกันนั้นทางบริษัทฯ ได้มีหนังสือถึง
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 เพื่อขอกำลังตำรวจ บช.ภ.9 เข้ามาป้องกันการขโมยรังนกฯ
ด้วย เนื่องจากการขโมยรังนกในพื้นที่ดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่าห่วงยิ่ง ซึ่งทาง
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ได้ส่งกำลังตำรวจ บช.ภ.9
มาปฏิบัติหน้าที่ทางทางบก ทางน้ำ จนบางครั้งได้สร้างความขัดแย้งในการปฏิบัติหน้าที่กันทั้ง
2 ฝ่าย ตามข่าวที่เสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่าวันนี้ (18 ส.ค.2564) เวลาประมาณ 14.45 น.
ที่ห้องประชุมอิรวดี ศาลากลางจังหวัดพัทลุง นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์
ผวจ.พัทลุง ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการรังนกฯ
เพื่อพิจารณาให้มีการประมูลรังนกฯ เนื่องจากการตรวจสอบเอกสารของทั้ง 3
บริษัทที่เข้ายื่นประมูลเป็นไปด้วยความถูกต้อง ซึ่งมติที่ประชุมได้มีมติให้บริษัท
สยามเนสท์ฯ เป็นผู้เข้าทำสัญญาการสัมปทานรังนกฯ ในครั้งนี้ ภายใน 15 วัน
และมีมติให้นายก อบจ.พัทลุง อัยการจังหวัด ปลัดจังหวัดพัทลุง และปลัด อบจ.พัทลุง
เป็นผู้ร่วมลงนามสัญญาการสัมปทานรังนกฯ กับบริษัทดังกล่าว
โดยในวันทำสัญญานั้นทางบริษัทฯ จะต้องนำเงิน 64 ล้านบาท มาประกันสัญญา
และนำเงินก้อนแรกมาชำระในวันทำสัญญาเป็นเงิน 80 ล้านบาท หลังทำสัญญาแล้วทางคณะกรรมการรังนกฯ
จะนำเงินดังกล่าวไปจัดสรรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งจังหวัดพัทลุงตาม
พรบ.อากรรังนกอีแอ่น พ.ศ.2540 ต่อไป
ส่วนจะนำเงินดังกล่าวไปซื้อวัคซีนฉีดป้องกันโรคโควิด-19
ตามที่ชาวบ้านเรียกร้องนั้นทำไม่ได้เนื่องจาก พ.ร.บ.รังนกฯ มิได้กำหนดไว้
สำหรับกรณีที่ทางบริษัทฯ
จะขอมีส่วนร่วมในการเฝ้ารังนกฯ นั้น มติที่ประชุมไม่อนุญาต เนื่องจากการทำสัญญาการสัมปทานตาม
พ.ร.บ.รังนกฯ ยังไม่แล้วเสร็จ ในส่วนความขัดแย้งระหว่างชุดเฝ้าระวังรังนกฯ กับตำรวจ
บช.ภ.9 นั้น พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จ.พัทลุง ได้สร้างความเข้าใจกับผู้บังคับบัญชาของตำรวจชุดดังกล่าวแล้ว
โดยตำรวจชุดดังกล่าวไม่สามารถเข้ามาในเขตหวงห้ามได้
และคงปฏิบัติหน้าที่นอกเขตหวงห้ามได้เท่านั้น
ส่วนกรณีที่ชุดเฝ้าระวังรังนกฯ ปล่อยให้ชาวประมงเข้าไปจับสัตว์น้ำในเขตหวงห้าม
จนนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างชุดเฝ้ารังนกฯ กับตำรวจ บช.ภ.9 นั้น
ทางผู้รับผิดชอบจะได้เร่งกำชับให้ชุดเฝ้าระวังปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากปล่อยให้ชาวประมงเข้าไปในเขตหวงห้ามก็ถือว่าชุดดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่ด้วยความหย่อนยาน
ขาดประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่
ส่วนการที่บริษัทฯ จะนำระบบไฟฟ้าและถังน้ำไปติดตั้ง ณ สำนักงานบนเกาะรังนกฯ ในระหว่างการร่วมลงนามการสัมปทานนั้น ทางคณะกรรมการรังนกฯ ยินดีอนุญาต โดยจะมี จนท.ชุดเฝ้าระวังคอยดูแลด้วย ในกรณีที่ทางตำรวจ บช.ภ.9 จะขอมาเข้าร่วมในการเฝ้ารังนกฯ นั้น นับเป็นเรื่องที่ดีที่ทุกฝ่ายจะได้ร่วมด้วยช่วยกันรักษาและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่สืบไป แต่ขอให้ผู้บังคับบัญชาของ บช.ภ.9 มีหนังสือถึง พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จ.พัทลุง โดยขอให้ระบุยศ ตำแหน่ง และจำนวนผู้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว หลังจากนั้นทาง พล.ต.ต.วรา จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาในคณะกรรมการรังนกฯ ต่อไป หากได้รับการอนุญาตก็จะส่งตำรวจ บช.ภ.9 เข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังรังนกฯ ร่วมกับชุดคุ้มครองรังนกฯของจังหวัดฯตามขั้นตอนต่อไป และในกรณีที่ทางบริษัทฯ จะนำเงินอีก 10 ล้านบาท มาวางเพิ่มเติมรวมเป็น 20 ล้านบาทนั้น มติในที่ประชุมไม่เห็นด้วย เนื่องจากอยู่นอกเหนือระเบียบของ พรบ.รังนกฯ
อย่างไรก็ตามหลายๆ คนต่างจับตามองกันว่า หากหลังจากที่ บริษัท สยามเนสท์ฯ เข้ามาทำสัญญาการเข้าทำสัมปทานรังนกฯ ในหมู่เกาะสี่ เกาะห้า ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน เสร็จสิ้นและเข้าไปทำธุรกิจบนเกาะรังนกฯ แล้ว หากกระแสข่าวการขโมยรังนกในถ้ำต่างๆ เป็นเรื่องจริง จนไม่มีรังนกเหลืออยู่ในถ้ำเหมือนตอนที่ทางบริษัทฯ ได้ส่งมอบเกาะรังนกให้กับทางจังหวัฯ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2564 ปัญหาความวุ่นวายอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่ ส่วนจะนำไปสู่การฟ้องร้องของบริษัทรังนกฯ ต่อทางจังหวัดหรือไม่นั้น เป็นสิ่งที่ชาวบ้านกำลังจับตามองอยู่เช่นกัน เนื่องจากปัญหาดังกล่าวเคยเกิดขึ้นแล้วในบางจังหวัด ซึ่งข่าวคืบหน้าจะรายงานต่อไป.