แฉตัวการขโมยรังนก ที่แท้นักการเมือง ให้อดีต สจ.ออกหน้าสั่งการ
หมวดหมู่ : การเมือง, พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 17 ก.ย. 2564, 20:00 น. อ่าน : 2,895พัทลุง-ทีมงาน รอง ผบ.ตร.เริ่มติดตามจี้ตำรวจ จ.พัทลุง สืบสวนขยายผลคดีล่อซื้อรังนกขโมย เพื่อสาวถึงผู้ร่วมขบวนการ ด้านอดีตนายก อบต.เกาะหมาก อัดยับและแฉมีนักการเมืองท้องถิ่น จับมือ จนท.รัฐร่วมกันขโมยรังนก จ.พัทลุง ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านเปิดโปงมีนักการเมืองในภาคใต้ 2 คน หนุนหลังขบวนการขโมยรังนก โดยมีอดีต สจ. เป็นตัวการออกหน้า มีเครือขาย 3 จังหวัด พัทลุง สตูลและสงขลา
ภายหลังจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้ประสานให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) ไปเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนเพื่อนำไปสู่การจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ร่วมขบวนการขโมยรังนกอีแอ่น จ.พัทลุง ที่เกาะสี่เกาะห้า ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง โดยใช้วิธีโหดเหี้ยมกองไฟเผารมควันไล่แม่นกที่กำลังฟักไข่ ทำลายนกและลูกนกกว่า 1 ล้านตัว มูลค่าความเสียหายกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งมีการตรวจพบเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2564 ก่อนส่งมอบเกาะให้ บริษัทสยามเนสท์ 2022 จำกัด ผู้ชนะการประมูลการสัมปทานรังนกฯ ในราคา 400 ล้านบาท ผู้สื่อข่าวสายงานว่าขณะนี้ทีมงานของ พล.ต.อ. สุชาติได้เริ่มตรวจสอบขยายผลคดีเก่าที่มีการล่อซื้อรังนกที่ถูกขโมยจากถ้าเกาะสี่เกาะห้าแล้ว
สำหรับคดีที่ถูกสั่งเร่งขยายผลคือคดี ตำรวจ บช.ภ.9 ล่อซื้อรังนกที่ถูกขโมยจากผู้ต้องหา 2 ราย ที่ลานจอดรถห้างโลตัส สาขาแม่ขรี อ.บางแก้ว จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 21 ส.ค.64 ซึ่งการสอบสวนเบื้องต้นพบว่ามี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนดังในพื้นที่ จ.สงขลา รายหนึ่งอยู่เบื้องหลังเป็นนายหน้านั้น หลังจากที่ พ.ต.ต.ประจวบ สุวรรณรัตน์ สว.สส.บก.สส.บช.ภ.9 หัวหน้าชุดจับกุมขับรถยนต์แหกโค้งประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในท้องที่ ม.1 ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน คดีก็ไม่มีความคืบหน้า ส่วนข้อมูลที่ทีมงานตำรวจจากส่วนกลางที่ได้รับจากตำรวจท้องที่ ก็ไม่ต้องกับข้อมูลที่ปรากฏทางสื่อมวลชน จึงถูกเร่งรัดให้ดำเนินการให้มีความคืบหน้า ก่อนที่ พล.ต.อ.สุชาติ ธระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.จะลงพื้นที่ตรวจสอบ
ทางด้านการเก็บรังนกนั้น พนักงานบริษัทสยามเนสท์ฯ ที่รับผิดชอบการจัดเก็บรังนก เปิดเผยว่า จากการลงจัดเก็บรังนก 28 ถ้ำ เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ปรากฏว่าในหลายถ้ำไม่มีรังนก โดยจัดเก็บรังนกขาวได้เพียง 4.52 กก. และรังนกดำ 10.54 กก. นอกจากนั้นยังพบอุปกรณ์การเสพยาเสพติดในถ้ำไอ้ก้องน้อยเกาะรู้สิ้ม 2 ชุด พบไฟแช็ค 3 อัน เครื่องดื่มชูกำลัง ขวดน้ำ และกองขยะมากมาย จากนั้นทีมเก็บรังนก 2 ชุด 30 คน ได้กลับขึ้นฝั่ง เหลือชุดสุดท้ายอีก 30 คน ที่อยู่ดำเนินการจัดเก็บรังนกวันที่ 17 ก.ย.วันสุดท้าย จากนั้นกลับขึ้นฝั่ง เป็นการเสร็จสิ้นการเก็บรังนกครั้งที่ 3 ของปี ซึ่งเป็นครั้งแรกของสัมปทานใหม่ ส่วนการพบอุปกรณ์เสพยาเสพติดภายในถ้ำรังนก และหลายฝ่ายคาดคิดว่ามี จนท.รัฐเข้าร่วมด้วยจึงเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในประวัติการจัดเก็บรังนกในประเทศไทย
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายประดิษฐ์ จาริยะ อดีตนายก อบต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน ว่า มีชาวบ้านที่เข้าไปร่วมกับโจรในเครื่องแบบขโมยรังนกนั้นเป็นชาวพัทลุงในพื้นที่ร้อยละ 80 อีกร้อยละ 20 เป็นคนที่มาจากต่างจังหวัด ส่วนผู้อยู่เบื้องหลังในการประสานงานระหว่าง โจรในเครื่องแบบนั้นน่าจะเป็นอดีตนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งใน จ.พัทลุง ส่วนน้ำลายนกอีแอ่นที่ทำให้เกิดรังนกมูลค่ามหาศาลจนสามารถนำอากรรังนกฯไปพัฒนาท้องถิ่น แต่ไม่สามารถรักษานกฯไว้ได้นั้นเป็นเรื่องที่น่าละอายที่สุด และเห็นด้วยที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่ง รอง ผบ.ตร.ลงมาคลี่คลายคดีในครั้งนี้ เพื่อนำตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายให้ได้แบบขุดรากถอนโคน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าได้รับการเปิดเผยจากผู้ใหญ่บ้านว่า ขบวนการขโมยรังนกฯกลุ่มนี้ ทั้งข้าราชการ ตำรวจ และนักการเมืองใน จ.พัทลุง ต่างก็น่าจะรู้ดีว่าเป็นใคร แต่ทำเป็นพูดไม่ออก กำนันและผู้ใหญ่บ้านในพัทลุงต่างก็รู้กันดีว่ามีใครอยู่เบื้องหลังและให้ใครออกหน้าติดต่อสั่งการ เพียงแต่ไม่กล้าพูดเนื่องจากเกรงกลัวบารมีและอิทธิพล แค่ดูง่ายๆ การเข้าไปขโมยใช้คนไม่ต่ำกว่า40-50 คน ใช้เวลาขโมยอยู่นานไม่ต่ำกว่า 10-15 วัน และเส้นทางก็ต้องผ่านจุดที่เจ้าหน้าที่เฝ้าเกาะเกือบ 50 คน ทำไมผ่านได้ง่ายดาย
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าว ได้ติดตามเครือข่ายของขบวนการขโมยรังนกอีแอ่นพัทลุง พบว่ามีเครือข่ายครอบคลุมกับการขโมยรังนกอีกแอ่นหลายจังหวัดในภาคใต้ทั้งพัทลุง สตูล ตรัง กระบี่ ทั้งขโมยและรับซื้อนำมากระจายต่อให้เครือข่ายใหญ่ 3 จังหวัดคือพัทลุง สตูล และสงขลา ส่งขายในตลาดมืดและกลุ่มนายทุนที่คอยรับซื้อ ส่วนผู้หนุนหลังขบวนการขโมยรังนกฯ เป็นนักการเมืองในภาคใต้ 2 คน ซึ่งข้าราชการต่างเกรงใจ โดยให้ลูกน้องเป็นอดีต สจ.ในจังหวัดหนึ่ง คอยออกหน้าสั่งการและประสานเครือข่าย สำหรับใน จ.พัทลุง จะมีลูกน้องนักการเมืองท้องถิ่นออกหน้าติดต่อขายรังนกที่ขโมยมา เช่นเดียวกับที่ จ.สตูล ส่วน จ.สงขลา มีอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งที่ อ.รัตภูมิ เป็นคนนำรังนกที่ขโมยมาปล่อยให้นายหน้านำออกขาย นอกจากนี้ที่ อ.สิงหนคร และ อ.สะทิงพระ มีนักการเมืองท้องถิ่นเป็นเครือข่ายรับซื้อนำไปปล่อยขายในตลาดมืด และมีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่บางคนจึงทำให้ลอยนวลอยู่ได้ทุกวันนี้ ซึ่งข่าวคืบหน้าจะนำมาเสน่อต่อไป.