ธกส.อัดเงิน 400 ล้านบาท ช่วยสภาพคล่อง สหกรณ์ ตร.ที่ถูกโกง
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 7 ก.ค. 2565, 18:00 น. อ่าน : 770พัทลุง-สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัดเตรียมจัดประชุมวิสามัญในต้นเดือนสิงหาคม ด้าน ธกส.เตรียมจ่ายเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้สหกรณ์ฯอีกประมาณ 400 ล้านบาท
คดีทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด วงเงินกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งมีการจับกุมผู้ต้องหา 24 ราย ทางด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ดำเนินการอายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาและเครือญาติแล้วประมาณ 400 ล้านบาท ล่าสุดมีการขยายผลการสอบสวนไปอายัดทรัพย์สินได้อีกจำนวนมาก ด้านผู้ต้องหาเข้าแจ้งความเอาผิดกับพนักงานสอบสวนอีก 1 ราย ด้านตำรวจ ภ.9 จะร่วมกับ ผบก.ภ.จ.พัทลุง ร่วมกันเร่งแก้ปัญหาด้านเสถียรภาพของสหกรณ์ฯ โดยการจัดประชุมหัวหน้าโรงพัก ตัวแทนโรงพัก เพื่อเร่งหาประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด คนใหม่ หลังจากที่ประธานคณะกรรมการฯ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาได้ลาออกไป ซึ่งขณะนี้ว่าที่ประธานฯดังกล่าวได้ตอบรับแล้ว ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
ความคืบหน้าคดีนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่าในต้นเดือนสิงหาคม 2565 นี้ ทางสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด จะจัดให้มีการประชุมวิสามัญ ประจำปี 2565 เพื่อรับรองงบแสดงฐานะทางการเงิน การจัดทำแผนฟื้นฟู และการกำหนดวงเงินกู้ยืม เพื่อให้เจ้าหนี้จ่ายเงินมาสร้างสภาพคล่องแก่สหกรณ์ฯ ซึ่งในขณะนี้ ธกส.พร้อมที่จะจ่ายเงินกู้ให้แก่สหกรณ์ฯแล้วประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทยก็พร้อมที่จะให้เงินกู้แก่สหกรณ์ฯตามความจำเป็นของสหกรณ์ฯ เพื่อสร้างสภาพคล่องให้แก่สหกรณ์ฯอีกประมาณ 100 - 200 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ทางชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศ ได้ให้การช่วยเหลือด้านเงินกู้มาอย่างต่อเนื่อง หากการฟื้นฟูสหกรณ์ฯได้รวดเร็วก็จะสามารถสร้างความมั่นใจให้แก่สมาชิกที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพัทลุง จะเร่งทำการตรวจสอบระบบบัญชีว่ามีส่วนไหนบ้างที่ไม่เกิดจากการทุจริต เป็นการจ่ายเงินที่เกินไปจากความเป็นจริง อาทิ เงินปันผล เงินเฉลี่ยคืน และเงินทุนสำรอง ฯลฯ ในแต่ละปี ซึ่งอาจจะทำให้การขาดทุนสะสมของสหกรณ์ฯลดลง แต่ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขดังกล่าวได้ โดยจะต้องพูดคุยกับผู้สอบบัญชีเอกชนอีกครั้งหนึ่งในสัปดาห์หน้า
ส่วนการทุจริตเงินสหกรณ์ฯยังคงอยู่ที่มาก กว่า 1,500 ล้านบาท โดยกลุ่มผู้ทุจริตได้นำเงินจากการทุจริตออกสู่ภายนอก เพื่อผลประโยชน์แก่ตนเอง บุคคลในครอบครัว และเครือญาติ ฯลฯ มากกว่า 800 ล้านบาท ในขณะนี้ถูกพนักงานสอบสวนตามคำสั่งของ ผบ.ตร.ได้อายัดทรัพย์สินทั้งในและต่างจังหวัดได้เป็นจำนวนมากแล้ว อีกส่วนหนึ่งประมาณ 745 ล้านบาทนั้น เป็นการทุจริตที่ให้สหกรณ์ฯมีรายได้เกินความเป็นจริง เพื่อให้สมาชิกสหกรณ์ฯได้เห็นว่ากลุ่มผู้ทุจริตมีการบริหารงานกิจการสหกรณ์ฯที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการปั้นให้สหกรณ์ฯมีกำไรเกินความจริงจนทำให้สมาชิกได้รับเงินที่ทุจริตดังกล่าวในรูปแบบเงินเฉลี่ยคืน เงินปันผล และเงินทุนสำรอง เมื่อสมาชิกสหกรณ์ฯได้เงินปันผล ที่สูงกว่าปกติก็เกิดความนิยมและศรัทธาต่อกลุ่มผู้ทุจริต จนนำไปสู่ความเสียหายในสหกรณ์ฯดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อตอนสายวันที่ 7 ก.ค. กำลังชุดสอบสวนของ สตช. ได้เรียกผู้ต้องหา สมาชิกในครอบครัว และเครือญาติที่เกี่ยวข้อง มาสอบปากคำเพื่อขยายผลไปสู่การอายัดทรัพย์และยึดทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ส่วนพล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผบก.อธ. ผู้รับผิดชอบด้านงานสอบสวนตามคำสั่งของ ผบ.ตร.พร้อมพวก จะลงพื้นที่ตรวจสอบสำนวนการขยายผลไปสู่การอายัดทรัพย์และการยึดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาและเครือญาติ และในสัปดาห์หน้าน่าจะมีการสรุปสำนวนการสืบสวนสอบสวนไปสู่การอายัดทรัพย์และยึดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหา รวมทั้งเครือญาติอย่างแน่นอน ท่ามกลางการจับตามองของสมาชิกสหกรณ์ฯว่าทรัพย์สินดังกล่าวนี้จะมีมูลค่ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.