สลดนั่งร้านโครงเหล็กสร้างสะพานถล่มทับคนงาน เมียนมา ดับ 1 สาหัส 1

หมวดหมู่ : ชุมพร,

อ่าน : 891
ชุมพร
สลดนั่งร้านโครงเหล็กสร้างสะพานถล่มทับคนงาน    เมียนมา ดับ 1 สาหัส 1

ชุมพร-คนงานเมียนมารื้อนั่งร้านโครงเหล็กสร้างสะพานข้ามทางรถไฟรางคู่ช่วง จ.ชุมพร พังถล่มทับดับอนาถ 1 ราย อีกรายเจ็บสาหัส พบพาสปอร์ตระบุทำงานที่ จ.สมุทรสาคร จนท.ผวาต้องใส่ชุดป้องกันเขื้อโรคเก็บศพ

        เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2564 เวลา 13.00 น. พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทรสระ สว.สอบสวน สภ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุนั่งร้านเหล็กโครงสร้างสะพานพังทับคนงานก่อสร้างสะพานเสียชีวิต บริเวณโครงการสร้างสะพานข้ามทางรถไฟรางคู่ หมู่ 10 ตำบลคลองวังช้าง อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพ กู้ภัยเทศบาลตำบลปะทิว

        จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพแรงงานชาวเมียนมา ทราบชื่อภายหลังตามบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยใบสีชมพู คือ นายหม่อง ปัน อายุ 31 ปี ที่อยู่ 114/249 หมู่ 1 ตำบลบางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ส่วนหนังสือเดินทางพาสปอร์ต ระบุสถานที่ทำงาน จ.สมุทรสาคร สภาพถูกเหล็กนั่งร้านซึ่งเป็นโครงเหล็กขนาดใหญ่ทับร่าง บริเวณศีรษะกะโหลกะแตก มันสมองกระจาย มีอุปกรณ์เครื่องเชื่อมเหล็กอยู่ในมือและค้อนเหล็กอยู่ใกล้อีก 1 อัน เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้รถเครน มายกนั่งร้านเหล็กออก พร้อมใส่ชุดป้องกันเชื้อโรค ก่อนนำร่างขึ้นมาตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง

        เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนคนงานก่อสร้างที่อยู่ในที่เกิดเหตุทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายหม่อง ปัน พร้อมเพื่อนแรงงานชาวเมียนมา อีก 1 คน ได้ทำการรื้อโครงเหล็กนั่งร้านออก เพื่อนำไปขึ้นอีกจุด แต่ระหว่างที่ทั้งสองกำลังใช้เครื่องเชื่อมตัดเหล็กอยู่ นั่งร้านซึ่งมีความสูงกว่า 30 เมตร ได้เกิดพังถล่มลงมาทับทั้งสองคนโดยนายหม่อง ปัน เสียชีวิตคาที่ ส่วนเพื่อนแรงงานชาวเมียนมาอีกคนถูกเหล็กนั่งร้านทับบริเวณขาและที่มือ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทางเพื่อนร่วมงานได้ช่วยกันรื้อเหล็กที่ทับออกและได้นำส่ง รพ.ปะทิว ไปก่อนหน้า พร้อมแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

        หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกผู้ควบคุมงานมาสอบปากคำถึงมาตรการการควบคุมดูแลระหว่างรื้อถอนโครงสร้างว่าได้มาตรฐานหรือไม่อย่างไร และเข้าข่ายประมาทจนเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย และตรวจสอบว่าแรงงานต่างด้าวตามที่อยู่บัตรสีชมพูอยู่ จ.สมุทรปราการ มีการแจ้งย้ายแรงงานเข้าพื้นที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.



อ่านข่าวที่เกี่ยงข้อง :