อพท.ขับเคลื่อนท่องเที่ยวยั่งยืน 3 จังหวัด 15 อำเภอ
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 17 ต.ค. 2565, 19:30 น. อ่าน : 549พัทลุง-อพท.จัดกิจกรรมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยวพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาแห่งวิถีลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า เมื่อตอนสายวันที่ 17 ต.ค.65 ที่โรงแรมศิวา รอยัล อ.เมืองพัทลุง ดร.นาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี(นายอนุทิน ชาญวีรกูล) เป็นประธานเปิดกิจกรรมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยวพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาแห่งวิถีลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา “มหัศจรรย์แห่งวิถีลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา สู่การเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ครั้งที่2” ซึ่งองค์การบริหารพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่นยืน(องค์การมหาชน) หรือ อพท. โดย นอ.อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการ อพท. ได้จัดขึ้นตามนโยบายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา โดยครอบคลุมพื้นที่ใน 15 อำเภอ ของ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.สงขลา 8 อำเภอ จ.พัทลุง 5 อำเภอ และจ.นครศรีธรรมราช 2 อำเภอ
ทั้งนี้ อพท.ได้ดำเนินการศึกษาศักยภาพและประเมินความเหมาะสมเพื่อประกาศเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มีแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน โดยครอบคลุมพื้นที่ใน 15 อำเภอ ของ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.สงขลา 8 อำเภอ จ.พัทลุง 5 อำเภอ และ จ.นครศรีธรรมราช 2 อำเภอ เพื่อสร้างการรับรู้ถึงการและความตระหนักของทุกภาคส่วนถึงประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนสร้างโอกาสในการพัฒนาเครือข่ายและส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และเพิ่มเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวและกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนและท้องถิ่น
สำหรับกิจกรรมประกอบด้วย การเล่าเรื่อง “ยลวิถีลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ยกระดับสู่การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” กิจกรรมเสวนา หัวข้อ “ทิศทางเล เสน่ห์ลุ่มน้ำ การท่องเที่ยวทะเลสาบสงขลา จะเป็นอย่างไรเมื่อได้เป็นพื้นที่พิเศษ” กิจกรรมสำรวจและเรียนรู้วิถีแห่งลุ่มน้ำทะเลสาบ ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และชิมอาหารพื้นถิ่นของ 3 จังหวัด อีกด้วย โดยมีหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ชุมชนในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา สถาบันการศึกษา และสื่อมวลชนทั้ง 3 จังหวัด เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 250 คน.