เตรียมยึดอีก 200 ล้าน -“บิ๊กโจ๊ก”เผยพบทรัพย์สินเพิ่มคดีโกงสหกรณ์ ตร.
หมวดหมู่ : พัทลุง, ทั่วไป,
โฟสเมื่อ : 27 ก.ย. 2565, 16:53 น. อ่าน : 730พัทลุง-“บิ๊กโจ๊ก“ จับมือ ปปง.ไล่ล่าทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาคดีทุจริตเงินสหกรณ์ฯ พบที่ต้องยึดเพิ่มอีกประมาณ 200 ล้านบาท
การทุจริตในสหกรณ์ตำรวจพัทลุงทำให้เกิดความเสียหายประมาณ 1,500 ล้านบาท และมีการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 27 ราย ยึดทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 1,003,753,140 บาท โดยพนักงานสอบสวนนำสำนวนคดีมากกว่า 50,000 แผ่น พร้อมกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 26 ราย ส่งพนักงานอัยการเมื่อช่วงสายวันที่ 19 กันยายน 2565 ส่วน ปปง. เร่งดำเนินการฟ้องแพ่งกับกลุ่มผู้ต้องหาตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน นอกจากนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกกลุ่มผู้ต้องหาและบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ เพื่อนำไปสู่คดีฟอกเงินอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีกลุ่มผู้ต้องหาที่จะถูกดำเนินคดีฟอกเงินมากกว่า 10 ราย ตามข่าวที่เสนอมาต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้าคดีนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ได้กล่าวในโอกาสเดินทางมาแถลงข่าวการจับกุมกลุ่มผู้ต้อง 4 ราย ในคดีร่วมกันฆ่านายณรงค์ นิลโชติ อายุ 62 ปี และนางวรรณดี จงเสมอ อายุ 51 ปี ภรรยา ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพื่อตัดตอนพยานปากสำคัญ ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เมื่อค่ำวันที่ 26 กันยายน 2565 ที่ผ่านมาว่า การคลี่คลายคดีการทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ยังไม่จบสิ้น ขณะนี้ทาง ปปง.กำลังเร่งขยายผลการยึดทรัพย์ของกลุ่มผู้ต้องหามาอย่างต่อเนื่อง โดยทาง ปปง.ได้รับทราบทรัพย์สินที่ได้มาจากการทุจริตของคดีดังกล่าวเพิ่มเติมแล้ว ซึ่งทาง ปปง.จะลงพื้นที่เพื่อยึดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาในเร็วๆนี้ จากนั้นจะเริ่มดำเนินการในการทำสำนวนคดีอาญาฟอกเงินของทรัพย์สินตามขั้นตอนต่อไป
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ปปง.มีฐานข้อมูลการทุจริตอย่างละเอียดของคดีดังกล่าวแล้ว โดยที่ผ่านมามีการยึดทรัพย์สินจากกลุ่มผู้ต้องหาได้แล้วมากกว่า 1,000 ล้านบาท ยังเหลือทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหาที่จะต้องมีการยึดเพิ่มเติมอีกประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งจะมีการยึดทรัพย์ที่เหลือดังกล่าวในเร็วๆนี้ ในส่วนของคดีดังกล่าวนี้ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้วประมาณร้อยละ 95 ยังคงเหลืออีกประมาณร้อยละ 5 ส่วนการยึดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาในงวดสุดท้ายนั้นตนจะลงพื้นที่ยึดทรัพย์ด้วยตนเอง
“หลังจากที่มีการยึดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาครบ 100 เปอร์เซ็นแล้ว ก็จะเริ่มเข้าสู่การดำเนินงานการรวบรวมสำนวนการสอบสวนคดีอาญาฟอกเงินเพื่อปิดคดีการทุจริตดังกล่าวต่อไป ส่วนสำนวนการสอบสวนคดีฟอกเงินนั้น ผมและกลุ่มพนักงานสอบสวนตามคำสั่งของ สตช. จะร่วมกันจัดทำสำนวนอย่างละเอียดและรัดกุม โดยผมจะเป็นผู้เข้ามาควบคุมดูแลสำนวนดังกล่าวด้วยตนเอง ทั้งนี้เพื่อให้นำทรัพย์สินที่มีการทุจริตนำกลับคืนสู่สหกรณ์ฯให้มากที่สุด” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าว ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป.